วงจรท่อระบายน้ำในวิถีไม่ตัน

การไหลเวียนของน้ำก็เหมือนกับสิ่งที่สมองเราคิดการวางแผนต่างๆ ว่าจะต้องราบรื่นไปด้วยดี แต่สิ่งที่เราคิดกลับทำให้มันเป็นทางตันไร้ซึ่งทางออก อาการเหล่านี้เคยเป็นมั้ยครับ เวลาทำงานเหนื่อยๆ และต้องมาใช้ความคิด ทั้งๆ ที่มันคิดไม่ออก หรือสิ่งที่เรานึกไว้ตั้งแต่แรกว่าจะทำ แต่พอกลับมาทำมันก็คิดไม่ออกว่า “เอ้...อะไรแล้วนะ รู้สึกเหมือนเคยพูด แต่มันลืมไปแล้วล่ะ” บางทีมันก็รู้สึกตึ๊บๆ เหมือนคิดอะไรไม่ออกว่าเราจะพูดอะไรออกไป

สมองช้าหรืออะไรกันแน่ แม้อย่างผมก็ยังเคยเป็นเลย ใครๆ ก็เป็นไปได้ครับ ขนาดคนนั่งเหม่อลอย คนข้างๆ เรียก ยังไม่สะเทือน แสดงว่ายังตามความคิดคนอื่นไม่ทัน หรือใครพูดอะไร ฟังแล้วไม่เข้าใจ มันก็ถึงทางตันกันพอดี มันมาจากสมองของเราด้วยกันทั้งนั้น คนพักผ่อนน้อย พลังความคิดก็ยิ่งลดลง ซึ่งควรให้พลังความคิดนั้นได้พักผ่อนบ้าง สำหรับผม ผมใช้วิธีการนั่งสมาธิ เป็นการรวบรวมสสารซึ่งอยู่ภายใน โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ให้มันได้ไหลเวียนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อร่างกายของเราได้พักผ่อนจะเห็นว่า การพัฒนาทางด้านความคิดดีขึ้น เหมือนกับว่าได้ชีวิตใหม่เลยครับ

วงจรท่อระบายน้ำในวิถีไม่ตัน ก็เปรียบเสมือนการวางแผนต่างๆ ครั้งหนึ่งผมเล่นเกมแนวนี้ และมองมันว่ามันต้องหาแต่ละจุดเลี้ยวที่เชื่อมโยงกัน ให้น้ำได้ไหลเวียนไปยังทางออก มันก็ทำให้ผมได้คิดว่า เกมแนวนี้ก็ช่วยจัดการวางแผนและจัดระบบสมองของเราให้เข้าที่เข้าทางมากยิ่งขึ้น ยิ่งเป็นจุดซึ่งเป็นท่อหัวเบี่ยงแบบ 4 ทิศทาง จะไหลเวียนความคิดนั้นได้อย่างไร ให้ไปถึงทางออกในจุดอื่นๆ สิ่งที่แน่นอนคือ “ทุกทางออกย่อมมีทางแก้”

2 ปัจจัยทางออกสำคัญ

1. การไหลเวียนทางเดียว เป็นการแก้ไขแบบจุดเดียว คิดอย่างเดียวว่าจะต้องไปให้ถึงทางออกให้ได้ คิดแต่เป้าหมาย แต่ไม่ได้มีจุดอื่นไว้รองรับว่าจะมีทางแก้ไขในจุดนั้นได้หรือไม่ การไหลเวียนทางเดียวเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่ได้มีการวางแผนระยะยาวไว้อยู่เลย จึงทำให้รู้สึกว่าตัวเองอึดอัดหรือคิดไม่ออกว่าเราได้พูดได้กล่าวไว้หรือยัง

2. การไหลเวียน 2-3 ทางขึ้นไป เป็นการแก้ไขในแบบหลายๆ จุด เป็นการวางแผนในระยะยาว เพื่อให้พลังความคิดนั้นได้ไหลเวียนได้สะดวก ไม่รู้สึกอึดอัดเกินไป งานที่ต้องใช้ความคิดในวางแผน หรือเขียนหนังสือเพื่อเป็นแรงจูงใจ แชร์ประสบการณ์ให้ผู้คนได้คิดตาม และนำความคิดนั้นมาพัฒนาตนเองไปในทางที่ดีขึ้น

ผมเชื่อว่าการไหลเวียน 2-3 ทางขึ้นไป เป็นการดีมากกว่าการไหลเวียนทางเดียว อย่างอะไรที่เราติดขัด ก็มักจะขัดข้องเสมอ จึงต้องจุดอื่นรองรับไว้แก้ไขในส่วนต่างๆ

แม้แต่การรั่วซึมจุดต่างๆ จริงเท็จอย่างไร ที่นำความลับของคนอื่นมาใช้ในทางที่ไม่ดี ซึ่งเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ ตามมา และก่อให้เกิดความเสียหาย จึงต้องรับรองความปลอดภัย ให้สิ่งเหล่านั้นแข็งแรง ที่จะนำความคิดไปถึงทางออกที่เราต้องการ

Following My Facebook Page : https://www.facebook.com/blogtkw2015

ทฤษฎีหมากล้อม การคาดคะเนในสิ่งที่คุณมองไม่เห็น

ขอบคุณ Google Pic Search เครดิตภาพ klissky.blogspot.com

ทุกครั้งที่ได้เล่นมัน ผมก็จะมองเห็นสิ่งที่มันทำให้พลิกสถานการณ์ได้ และจังหวะของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละจุด โดยภาพรวมแล้ว ในแต่ละตรรกะซึ่งมีเทคนิคของมันอยู่ในตัว และการหว่านล้อมเพื่อดักทางศัตรู แต่พอเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ในการหว่านล้อมแต่ละครั้งก็เหมือนชีวิตคนเรา ซึ่งมองหาเป้าหมายเป็นหลัก ซึ่งจะทำอย่างไรนั้นเพื่อจูงใจเขาได้

“ลูกค้าก็เปรียบเสมือนพระเจ้า” จะดึงใจเขาให้อยู่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ แล้วมันมีอะไรบ้างในกระดานที่คุณเล่นล่ะจุดสำคัญต่างๆ ย่อมมีการพลิกแพลง จากเรื่องดีกลายเป็นร้าย จากเรื่องร้ายกลายเป็นดี พลิกกลับไปกลับมา สิ่งที่ผมมองเห็นคือต้องมีการคาดคะเนหรือคาดการณ์เอาไว้แล้ว สมมติว่า ผู้หญิงงอนเรื่องที่ผู้ชายไม่ให้ความสนใจ พอกลับมาคืนดี ก็ไม่อยากคุยด้วยซะอย่างนั้น เฮ้อ...! นี่ล่ะน้า... ยุคสมัยนี้ เราก็ต้องทำให้เขากลับมาคืนดีให้ได้ ซื้อดอกกุหลาบมาให้เธอ กราบขออภัย “ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมนะ” ก็ต้องทำให้ทุกอย่างเพื่อมัดใจเธอ ความรักนะความรัก มันก็แบบนี้แหละ ต้องมีการหว่านล้อมหรือโน้มน้าวใจเธอ ยกโทษให้ผู้ชายคนนั้น

การหว่านล้อมหรือการโน้มน้าวใจ ก็เป็นหลักสำคัญที่จะทำให้ เพื่อเป็นแรงจูงใจลูกค้าได้ แต่พอมาถึงจุดที่ต้องแลก หรือการเดิมพัน มันจะคุ้มกับความเสี่ยงมั้ย มันจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่มันอาจจะพลิกคดีขึ้นมา ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง คนแก้เกมไม่ได้มันก็ถึงทางตัน สิ่งที่ผมมองเห็นมันเป็นไปได้ยาก แต่ขนาดคนที่เล่นไม่เป็นยังมีโอกาสชนะ คนที่เขาวางหมากเอาไว้ ใครที่แก้เกมได้ ก็จะได้รางวัลของผู้ชนะ ขึ้นอยู่กับว่าคุณโน้มน้าวใจลูกค้าได้ดีแค่ไหน และจะตามทันคนที่เขาวางเกมได้หรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว

แต่ละหนทางก็ย่อมมีทางออกเสมอ ไม่ว่าจะถึงทางตันหรืออะไรก็ตาม ก็ย่อมมีจุดเลี้ยวที่เราจะมองเห็นมัน กลุ่มผู้คนมากมายที่ทำงานหารายได้หรือไปตามทางความฝัน มีโอกาสน้อยที่จะมองเห็นอนาคต มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีปะปนกันอยู่ แต่เราก็ยังมีโอกาสที่จะได้มองเห็นมัน ผมก็เช่นเดียวกัน ตอนแรกผมก็หาทางออกไม่เจอ แต่ก็ยังมีโอกาส สิ่งที่นักเขียนเขามี ก็นำทางผมและเปลี่ยนบทบาทของเขาที่ได้ตีพิมพ์เป็นกำลังใจสำคัญให้ผมได้เดินต่อ มันมีโอกาสเสมอ ล้มแล้วก็ต้องลุกขึ้นได้ใหม่อีกครั้ง แค่คำว่า “เปลี่ยน” มันก็เปลี่ยน พี่ต้า (ศิลปินนักร้อง) ซึ่งเป็นพี่ชายผมก็ได้แนะแนวทางผมเหมือนกัน ทำให้ผมได้คำแนะนำดีๆ มา และลองเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเผื่อมีอะไรที่ดีขึ้น แล้วผมก็มองเห็นว่า เจ้าของบล็อกต่างๆ ที่ผมได้เข้าไปอ่าน ทำให้มองเห็นจุดต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ มันต้องมีความสนใจไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง แต่พอเมื่อเขียนไปแล้วทำให้ผมได้มองเห็น

Pat Flynn นักเขียน Ebooks เงินล้าน ผมเข้าไปอ่าน เขาให้ความสนใจทางด้าน Smart Passive Income (ธุรกิจแบบรายได้ติดตัว) ผมก็เข้าใจนะ ก็เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ซึ่งธุรกิจออนไลน์ประเภทนี้เป็นที่นิยมกันมากขึ้น ทำให้ตลาดโลกนั้นขยายตัวมากขึ้นด้วย กับ Active Income (รายได้ตลอดชีพ) หรือต้องทำทุกวัน ถ้าหยุดเราตาย ไม่มีเงินใช้ มันต้องหมุนเวียนเข้ามาตลอด เรื่องธุรกิจสำหรับผมก็มีอยู่ในหัวบ้าง คุณ Pat Flynn ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นนักเขียน แต่ให้ความสนใจทางด้านนี้ จึงได้ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ให้คนทั่วโลกได้ข้อคิดและกำลังใจดีๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาก็ทำได้ มันปลุกพลังใจผมมาก และทำให้ผมได้มองเห็นช่องโผล่ที่ควรจะเดินบนถนนนี้ต่อ นี่แหละครับคือตรรกะที่สำคัญที่เราควรจะคว้าเอาไว้

ในแต่ละก้าวนั้นนอกจากการเดินหน้าแล้ว ยังต้องรับปัญหาต่างๆ อย่างที่ว่า “ทุกครั้งที่เดินในเชิงรุก ต้องมีการตั้งรับ” เพราะถ้าเอาภาระไปกับเราด้วยจะทำให้มันหนัก และล่าช้า ก็ควรที่จะปล่อยวางลงบ้าง ยังมีอะไรอีกเยอะที่เราจะต้องเรียนรู้ และอีกอย่างอย่างตั้งรับอย่างเดียว ต้องเดินหน้ารุกบ้าง ค่อยเป็นค่อยไปขยับไปทีละก้าวตามขั้นบันได เพียงเท่านี้ก็สามารถชนะใจคุณเองได้แล้ว

อย่าพึ่งมองข้ามจุดเลี้ยว เพราะมันจะเป็นโอกาสสำคัญ มันถึงเวลาแล้ว ความพร้อมขึ้นอยู่กับตัวเราที่จะต้องเดิน ถึงแม้จะเป็นทางตันก็อย่าชะล่าใจ มันไม่ใช่ความเสี่ยง แต่มันเป็นโอกาสครั้งสำคัญ และเป็นผลผลิตทางภูมิปัญญาที่ทำให้เราได้ผลลัพธ์ เป็นพลังให้เราได้ประสบความสำเร็จ

Following My Facebook Page : https:///www.facebook.com/blogtkw2015

กำลังใจก็เป็นสิ่งสำคัญ

Thanks. Pinterest.com Cr.Pic. etsy.com

บทบาทกำลังใจ เป็นบทบาทความรักอย่างหนึ่ง อย่างเวลาในยามที่เราท้อหรือเหน็ดเหนื่อยจากภารกิจต่างๆ ก็อยากหาเวลามาให้ความสำคัญกับตนเอง พื้นฐานสำคัญคือครอบครัวที่ให้ทั้งความรักและเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดอีกตัวหนึ่ง คุณพ่อผมสอนให้ผมยิ้มทุกวันเลย ตอนเช้าๆ เวลาตื่นนอน ล้างหน้าล้างตาแปรงฟันทานอาหารเช้า พ่อผมยิ้มทุกวันแหละครับ จนผมได้จดจำพลังบางอย่างจากคุณพ่อ มันส่งผ่านความรู้สึกต่างๆ เข้ามาในตัวผมมากยิ่งขึ้น อย่างบางวันมีปัญหาอะไรสักอย่างผมก็จะคุยกับคุณแม่ คุณแม่ก็คอยรับฟังปัญหาของลูกๆ และยังแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ด้วย พวกท่านทำให้ผมได้เติบโต ไม่พูดคำหยาบ ไม่ดูถูกคน ถึงแม้จะเป็นคนที่ต่ำกว่าเรา

หนึ่งกำลังใจ ไม่ใช่แค่ครอบครัว เราก็สามารถให้คนอื่นได้เช่นกัน ครั้งหนึ่งผมก็เคยแนะแนวทางนี่แหละ เป็นกำลังใจสำคัญเลยทีเดียว และเป็นผลดีมากครับ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ให้กันได้ ขนาดเพื่อนๆ เองก็ตาม

กำลังใจเกิดขึ้นได้ไม่ยากหรอกครับ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเป็นคนกำหนด ให้กลายเป็นคนที่เข้มแข็งได้ กำลังใจดีก็ย่อมดี อย่างคนที่รักษาสุขภาพเขายังวิ่งทุกวัน อายุเท่าไรไม่สำคัญ ขอเพียงแค่กำลังใจดี ก็จะพาเราไปสู่จุดสูงสุดของคำว่า “ความสุขที่เหนือกว่า” กำลังใจคนสำคัญที่ว่า อะไรที่ทำให้เราท้อ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยบ้างครับ ถ้ามีคนข้างๆ คอยปลุกกำลังใจให้เรา ให้เราได้รู้สึกดี ชีวิตก็จะดูมีความสุขทันที กำลังใจมันก็เหมือนกับความรัก ที่ให้ไม่มีที่สิ้นสุด และสามารถแบ่งปันให้คนอื่นได้

กำลังใจกับธุรกิจที่กำลังเติบโต เรื่องธุรกิจผมก็พอฟังมาบ้าง ว่าเรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่หาลูกค้าเพิ่มยอดขาย สำหรับคนใหม่ที่พึ่งเริ่มต้น ก็อย่าพึ่งใจร้อนไป เรียนรู้ให้มากที่สุด และบทบาทกำลังใจที่อัพไลน์มีให้คุณ และสิ่งนี้เองที่จะทำให้คุณได้มีพลังสามารถก้าวหน้าได้ แค่เปลี่ยนกำลังใจที่เขาให้เป็นพลังของคุณ การมองหาเป้าหมายไม่ใช่เรื่องยาก พูดในลักษณะกำลังใจ แล้วจะมองเห็นว่าเรามีความจริงใจ และพร้อมที่จะให้เขาได้ก้าวหน้าไปกับคุณ เพียงคุณคิดเท่านี้ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ขนาดผมเองยังได้กำลังใจทุกวันเลย จากเพื่อนๆ ในโลกสังคมออนไลน์ และญาติพี่น้องต่างก็มาแสดงความยินดีกัน ขนาดยังเรียบเรียงไม่เสร็จเลยก็มีมาแล้ว อะไรก็แล้วแต่ที่ขาดไม่ได้คือกำลังใจสำคัญที่ทำให้คุณมีวันนี้

ความสวยงามของกำลังใจมันสวยเกินกว่าคำอธิบายซะอีก จะมีใครมั้ย ซักกี่คนที่มามอบความรักนั้น ธุรกิจใดๆ ก็ตามล้วนต้องหากำลังใจให้เราอยู่ได้ ความคงอยู่นั้นจะทำให้เราได้เสริมสร้างพลังใจตนเอง ไม่งั้นคงทำไม่ได้หรอก เรามีดอกไม้หนึ่งดอกในหัวใจที่เราต้องรักษาไว้ อย่าปล่อยให้แผดเผาไปตามความรู้สึกของคนอื่น รักษาใจอยู่ในแดนบวกเข้าไว้ และความสุขที่แท้จริงจะปรากฏในนิมิตหมายของคุณ

ไม่มีสิ่งใดทำให้เราพ่ายแพ้ใจตนเอง มีแต่ชนะใจตนเองเท่านั้น ไม่ต้องไปเอาชนะใคร ขอแค่ชนะใจตนเองก็พอ แต่ในยามแข่งขันก็ย่อมมีความเสี่ยง แข่งขันกับใจตนเองก็พอ ชนะใจตน กำลังใจดีๆ เกิดขึ้น ความสุขที่เหนือกว่าก็พร้อมเกิดขึ้นได้เสมอ

สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าความสุข

ขอบคุณภาพ Background HD

“ สุขทุกข์ อย่างไร คนที่เป็นแรงผลักดันคือครอบครัว ”

บนพื้นฐานของความสุขคือครอบครัว พ่อแม่ที่ให้ความรักและมากกว่าอะไรทั้งหลายในชีวิต ในยามที่เรามีปัญหา ท่านก็ให้กำลังใจเรา ซึ่งผมได้ทุกวันๆ เลย พ่อมักจะยิ้มให้ผมเสมอไม่ว่าจะทำอะไร และถ่ายทอดความรู้สึกนี้ จนผมได้ซึมซับมาเป็นแรงบันดาลใจให้ผม ได้พัฒนาตนเองต่อไปครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ หรือญาติพี่น้อง ผมก็รับที่จะสัมผัสความรู้สึกนั้นๆ จึงทำให้ผมมีวันนี้ได้ครับ

ความสุขเล็กๆ เป็นสิ่งที่สร้างเองได้ อะไรก็ได้ แต่มันก็ไม่ถึงขั้นเติมให้มันเต็มหรอก กิจกรรมที่ผมทำเป็นประจำ คือเล่นดนตรี และพาสุนัขออกไปเดินเล่น พบปะผู้คน แม่แต่สิ่งเล็กๆ ก็อย่ามองข้าม เพื่อนบ้านทำให้เรามีสังคม และเป็นสังคมใหม่ที่ต้อนรับพวกเรา

คนทำงานบางคนก็ดิ้นรนหาเงินก็อย่ามัวจนลืมบ้านของตัวเอง ไปค้างอ้างแรมกับเพื่อนก็หมั่นโทรหาคนที่คุณรักอย่างพ่อแม่บ้าง เจ็บไข้ไม่สบายหรือเปล่า พอเราไม่ได้กลับบ้าน ความสุขมันก็ความสุขมันก็หายไป และสูญเสียความรู้สึกว่าที่บ้านขาดใครไปสักคน จากครอบครัวมันก็ไม่เป็นครอบครัว เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญที่ควรเอาใจใส่ วันหยุดมีเวลาก็แวะไปหาท่านบ้าง หรือวันหยุดยาวกลับบ้านพอได้มีเวลาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้างก็ยังดี อย่าปล่อยให้เวลามันผ่านพ้นไปจนลืมคนที่บ้าน เมื่อมีใครคนหนึ่งล้มป่วยไป จากความสุขเล็กๆ มันก็กลายเป็นความเศร้า และหรือสูญเสียคนที่รักไป นี่ก็เป็นเหตุผลว่าครอบครัวต้องมาก่อน

หลายคำถามที่พ่อแม่ถามทุกวันนั้น ไม่ใช่ว่าจุกจิกหรือยุ่งเรื่องส่วนตัว บางคนก็โลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครมายุ่งหรือแม้แต่พ่อแม่ก็ตาม ที่พ่อแม่ทำทุกอย่างนั้นก็เพราะรักลูก ทำเพื่อลูก พ่อแม่ให้ความสุขเราได้ทุกอย่าง ความสุขอยู่กับเราได้ไม่นานมันก็กลายเป็นความทุกข์ เท่ากับเรามีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้อื่น ทำให้เราไม่มีค่าอะไรอยู่เลย ผมอยู่บ้าน อะไรที่ผมทำได้ ผมก็ทำ ทำด้วยใจ ความสุขก็เกิดขึ้นได้ ไม่ต้องให้ใครมาบังคับให้ทำโน่นทำนี่ ช่วยท่านได้ก็ช่วย ก็จะเป็นการดี และสร้างครอบครัวให้อบอุ่นได้

ความสุขของเราคือทำด้วยใจ ไม่ใช่การบังคับ ใครๆ ก็อยากสบาย กิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำอยู่ซ้ำๆ มันไม่ใช่ความน่าเบื่อ แต่มันช่วยทำให้บ้านสะอาด จัดเก็บของให้เข้าที่เข้าทาง แล้วเราจะมีค่าในสายตาของผู้ใหญ่ งานกวาดบ้านถูพื้นเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งและได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย เราได้ประโยชน์ทั้งสามอย่าง คือบ้านสะอาด ได้ออกกำลังกาย มีกิจกรรมทำ เป็นต้น แขกไปใครมาได้ชื่นชม เราก็จะมีค่าขึ้นมาทันที

จากวัยเรียนการศึกษาทำให้เรามีเพื่อน มีสังคม ได้การศึกษา ทำให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีความคิดสามารถพัฒนาตนเองไปในทางที่ดีขึ้น พอนานไปความคิดของเราก็เริ่มเปลี่ยน พอมาเจอกันในงาน Meeting หรือวันรวมรุ่น ก็มักจะถามว่า “เป็นยังไงบ้าง”, “สบายดีไหม”, “มีแฟนหรือยัง”, “ตอนนี้ทำอะไรอยู่” เป็นต้น มันก็เป็นการแสดงออกอย่างหนึ่ง มีความอยากรู้อยากเห็น แต่ที่จริงแล้วก็คือรักเพื่อนนั่นแหละ เพื่อนฝูงก็เป็นอีกหนึ่งสังคมในการอยู่ร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น ปาร์ตี้สังสรรค์ เป็นการอยู่ร่วมความคิดและควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ปริมาณเท่าไรถึงจะเหมาะสม มีกี่คนที่จะเข้าร่วม แล้วแบ่งหารค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วน และนี่คือการตัดสินใจร่วมกัน เป็นต้น

ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนย่อมมีขึ้นมีลง เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย มีปัญหาเข้ามาตามๆกัน  สุดท้ายก็มาตกอยู่ที่เราว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ทำไมวัยรุ่นสมัยเรียนการศึกษาถึงได้มีปัญหาบ่อยกันนัก เพราะทัศนคติไม่ตรงกันหรือเหตุผลอื่นที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่บางคนก็ไม่เคยปล่อยวาง คิดไม่เป็นเรื่องจนเกิดปัญหาอีก บางเรื่องก็เกิดมาจากปัญหาครอบครัวซึ่งเราจะต้องแก้ไขปัญหานี้เอง ปัญหานี้ใครๆ ก็เคยเป็น ผมยังผ่านมาได้เลย สำหรับผม ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยมีปัญหากับเขาหรอก มีแต่เพื่อนมาแกล้ง บางทีก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นอะไรที่ผมไม่ชอบเลย ความสุขของผม อยู่ได้เพราะการให้อภัย และการให้อภัยนั้นย่อมทำให้เกิดความสุขเล็กๆ ในหมู่เพื่อนฝูงได้ครับ

ชีวิตคู่หลังแต่งงาน สิ่งที่อยู่มายาวนานคือพ่อแม่อาบน้ำร้อนมาก่อนเรา ต้องอยู่ด้วยความเข้าใจกัน ปัญหาการหย่าร้างของคนในสังคมก็มีมากขึ้น นั่นก็เพราะไม่เข้าใจกันแล้วมาจบการตัดสินใจด้วยการหย่า ชีวิตคนสองคนจะแต่งงานกันได้มันเกิดจากความรักและความเข้าใจ การอยู่ร่วมความคิด การตัดสินใจร่วมกัน และแก้ไขปัญหาร่วมกัน อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อย่างนั้นปัญหาก็จะเข้ามาไม่รู้จบ

พ่อแม่ให้กำเนิดและให้ความสุขเรามาตั้งแต่ยังเล็กจนเติบใหญ่ ถึงวันที่เราต้องสร้างครอบครัว มีลูกหลานให้ท่านได้ชื่นชม เพียงเท่านี้ท่านก็มีความสุขแล้ว แล้วเราล่ะมีชีวิตคู่ มีลูกแล้ว รู้สึกอย่างไร กว่าเด็กจะเติบโตและเป็นผู้ใหญ่มันยากแค่ไหน ที่พ่อแม่เลี้ยงดูแลเรามา ต้องทำให้เหมือนที่พ่อแม่เลี้ยงดูแลเรามา ให้ความรัก ความสุข พื้นฐานของการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน