![]() |
เครดิตภาพ plus.google.com |
พัฒนาผู้ตามให้ขึ้นมาเป็นผู้นำ
โดยใช้หลักมานุษยวิทยามาประกอบร่วม
จะเห็นว่าการพัฒนาศักยภาพของผู้ตามเป็นหน้าที่หลักของผู้นำ
การควบคุมและการประสานงานจึงต้องไปในทางทิศทางเดียวกัน หรือมีเพื่อนร่วมงานเดินไปพร้อมกับเรา
ถึงจะได้เรียกว่า ทฤษฎีปลาโลมา
จิตวิทยาเรื่องปลาโลมา
ผมได้แรงบันดาลใจมาจากสารคดี และภาพยนตร์การ์ตูนครับ ซึ่งผมเขียนและแก้หลายรอบแล้ว
ยังไม่เข้าที่ซักทีเลย มาคราวนี้ผมมั่นใจกว่าเดิม ผมค้นหาข้อมูลต่างๆ
และไปเจอบทความ ทฤษฎีปลาโลมาของคุณตัน อิชิตัน ที่ผมได้อ่าน
เป็นการแชร์ประสบการณ์มากกว่าการลงรายละเอียดต่างๆ ของทฤษฎีปลาโลมานี้
ผมศึกษาจากการมีชีวิตของปลาโลมา
ซึ่งระบบสมองการทำงานของมัน มีลักษณะคล้ายมนุษย์และฉลาดเกินกว่ามนุษย์อีกซะด้วยซ้ำ
ผมจึงคิดว่า เอ้...ทำไม คนจีนถึงมีรสนิยมชอบรับประทานจำพวกสมองลิง สมองปลาโลมา
หรืออุ้งตีนหมี ผลประโยชน์มันมหาศาล แต่เมื่อเรารับประทานไปแล้ว
ก็ไม่ได้มีความฉลาดเรื่องอันใด มันอยู่ที่เราศึกษาและเรียนรู้
ว่าในมนุษย์นั้นมีไอคิวเท่าไรกัน
พอผมหันมาดูการ์ตูน
ทำให้จุดประกายอีกอย่างว่า เขาเอาข้อมูลพวกนั้นมาจากไหนกันนะ อย่างที่เคยบอกครับ
ว่าผมสนใจในวิทยาศาสตร์ ทั้งๆ ที่ ไม่ได้เรียนสายนี้มาโดยตรง ช่วงแรกๆ
ตอนผมเรียนอยู่ เป็นอะไรที่ไม่ชอบเลย
แต่ด้วยที่ผมสนใจและนำมาวิเคราะห์ก็ทำให้เรื่องราวต่างๆ กระจ่างชัดยิ่งขึ้นครับ
เมื่อผมจับความได้ว่า ทฤษฎีนี้ถูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น พอมาอ่านของคุณตัน
อิชิตัน ไปคนละทางเลย มันเป็นทัศนคติและความคิดเห็นของผมครับ แต่ก็อย่าพึ่งแปลกใจไป
อยากให้ลองอ่านดูก่อนครับ
นอกจากชีวิตของปลาโลมา
และฉลาดเกินกว่ามนุษย์ ยังเป็นมิตรกับเราและสัตว์อื่นด้วย ยิ่งเป็นมิตร
ยิ่งเปิดความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กับการรวมตัวของเพื่อนร่วมงาน
ก็เป็นพลังสำคัญอย่างหนึ่งที่เราขาดไม่ได้
ราวกับว่าในแต่ละคนนั้นจึงต้องไปกระตุ้นให้พวกเขามีพลังใจในการเดินหน้าและก้าวหน้าในวิชาชีพ
ซึ่งต้องคอยประคับประคองและกระตุ้นซึ่งกันและกันไปให้ถึงฟากฝั่งของความสำเร็จนั้น
กับในภาคธุรกิจเครือข่ายแล้วซึ่งนำมาใช้เป็นที่นิยมมากขึ้น
อีกอย่างหนึ่งที่เรามองไม่เห็นคือ
อ่านใจคน เชื่อมั้ยปลาโลมาสามารถอ่านใจเราได้ แต่เราไม่สามารถอ่านใจคนได้
ทำได้แต่การโน้มน้าวใจคน และสิ่งนี้ทำให้เราสามารถเติบโตและพัฒนาศักยภาพของเราได้
นี่คือสิ่งที่ผมมองเห็น
การประสานงาน
และมีจุดเชื่อมโยงที่มีต่อกันและกัน
ก็เป็นตัวกระตุ้นให้เราได้พัฒนาต่อไปในฐานะผู้นำ
ผู้ตามอย่างเราก็สามารถขึ้นมาเป็นผู้นำได้
เราเป็นจุดศูนย์รวมของผู้คนที่ทำให้เกิดเป็นกลุ่มเป็นสังคมขึ้นมา
และควบคุมการพัฒนาต่างๆ ไหลไปตามลูกคลื่น ได้พัฒนาประสบการณ์มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้เราเข้าใกล้ความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
แต่อย่าลืมนะว่า ทฤษฎีปลาโลมา จึงต้องทำงานเป็นทีมเท่านั้น “รวมกันเราอยู่
แยกหมู่เราตาย เพราะไม่มีใครอาศัยน้ำแรงของเราคนเดียวได้”
เรื่องราวของปลาโลมาที่อาศัยอยู่เป็นกลุ่มเป็นสังคมนั้นก็สามารถชนะปลาฉลามหนึ่งตัวได้
ถึงแม้มันอาจไม่ใช่เรื่องจริง
แต่มันเป็นเรื่องจริงของหลักมานุษยวิทยาที่เราสามารถฟันฝ่าอุปสรรคนั้นได้
จะเป็นปลาเล็กหรือปลาใหญ่
หากรวมกันเราอยู่ มีการประสานงานและการกระตุ้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังใจ
หรือสิ่งที่ถูกต้องก็ตาม สิ่งที่เราได้จากการเรียนรู้และกลุ่มสังคม
ก็ยกระดับความสัมพันธ์เป็นแรงบันดาลใจ
จุดประกายให้เป็นแรงผลักดันตนเองได้เทียบเท่ากับเขา นั่นหมายถึง
เราเดินมาไกลแล้วนะ อย่าได้ถอยไปก่อน ถ้าคิดจะเป็นปลาโลมา ต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน
และประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
สิ่งที่ถูกสร้างสรรค์มันคือจุดเริ่มต้น
และทำให้เกิดความรู้ต่างๆ การรวมเป็นกลุ่มทำงานเป็นทีม ซึ่งพวกเราจะมา “โค่นฉลามยักษ์”
และสิ่งนี้ที่จะเป็นตัวจุดประกาย ได้ยกระดับความสามารถ
และก้าวเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปในความสำเร็จของพวกเรา
ความคิดสร้างสรรค์ในธุรกิจก็ดี
หรืออื่นๆ ก็ทำให้ผมได้ยกระดับตนเองมาถึงขนาดนี้ได้ สำหรับผมแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือแฟนคลับ ก็ได้กล่าวไว้ว่า “หากเรายังไม่เริ่มต้น
เท่ากับเราพลาด” ผมได้เริ่มต้น จุดประกายแรงผลักดันตนเองขึ้นมา
ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขาที่ให้กำลังใจผมในทุกๆ วัน
ผมก็หวังว่าในทฤษฎีนี้ยังเป็นบทความรู้ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น